Final Fantasy Type-0 เผยระบบเวทมนต์

1647 0
ข้อมูลใหม่จากนิตยสารเดนเกคิประจำสัปดาห์ ยืนยันตรงกับเสียงกระซิบจากผู้ที่ได้ลองเล่นเดโมในสัปดาห์ก่อนว่า Final Fantasy Type-0 จะใช้ระบบพัฒนาตัวละครที่คล้ายคลึงกับระบบ Crystarium ซึ่งในโอกาสนี้ทางเว็บบล็อกของคุณ Hokando ก็ได้ทำการสรุปเนื้อหาบางส่วนมาให้อ่านกัน

type0a13_thumb

ใน Final Fantasy XIII นั้นระบบพัฒนาตัวละครที่ใช้เดินไปตามเส้นทางสายคริสตัล เพื่อปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ และเพื่ออัพเกรดเพิ่มค่าพลังด้านต่างๆ ทว่าใน Type-0 นั้นระบบพัฒนาตัวละครจะใช้ชื่อว่า “Alto-Crystarium” (アルトクリスタリウム) ซึ่งผู้เล่นจะต้องใช้ระบบนี้ในการพัฒนาพลังเวทย์

เวลาที่กำจัดศัตรูได้ ศัตรูจะเหลือสิ่งที่เรียกว่า “Phantoma” (ファントマ) เอาไว้ ซึ่งว่ากันว่ามันคือแหล่งพลังเวทย์ เมื่อผู้เล่นดูด Phantoma เข้าไป ก็จะทำให้ค่า MP ฟื้นคืนมา ส่วนจะฟื้นกลับมามากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของ Phantoma ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีสีแตกต่างกันไำป โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 3 สีคือแดง เหลือง ม่วง

นอกจากการฟื้นค่า MP แล้ว Phantoma ยังใช้ในการพัฒนาพลังเวทย์ของตัวละครตามระบบ Alto-Crystarium ซึ่งผู้เล่นก็สามารถเลือกพัฒนาเวทมนต์ได้หลายๆ ด้าน ตัวอย่างเช่นเวทย์ Fire RF ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะพัฒนาความรุนแรง ปริมาณการใช้ Mp เวลาที่ใช้ในการร่าย ระยะทางและความต่อเนื่องในการยิงเวทย์ ซึ่งการจะพัฒนาความรุนแรงของเวทย์นี้ ก็ต้องใช้ Phantoma สีแดง 6 ลูก

นอกจากเรื่องของระบบ Alto-Crystarium แล้ว ทางนิตยสารยังได้อธิบายระบบเวทมนต์ของเกม ซึ่งในเกมนี้เวทมนต์จะมีอยู่ด้วยกันหลักๆ 3 ธาตุคือ ไฟ น้ำแข็ง และไฟฟ้า …เวทมนต์ที่แตกต่างกันนี้ก็จะมีรูปแบบการโจมตี และวิธีการเรียกใช้ที่แตกต่างกัน โดยรูปแบบที่ว่าจะมีอย่างน้อย 5 รูปแบบด้วยกันคือ

เวทย์สาย SHG (ช็อตกัน) : เวทย์ที่ทรงพลังและตีวงกว้างในระยะใกล้ แต่ไม่ได้ผลในระยะไกล

เวทย์สาย RF (ไรเฟิล) : เวทย์ที่ยิงออกไปเป็นเส้นตรง สามารถพุ่งไปได้ไกล แต่ระยะทำการค่อนข้างแคบ

เวทย์สาย BOM (บอมบ์) : เวทย์ที่ใช้จัดการศัตรูที่ล้อมอยู่ มักได้ผลกับศัตรูที่ว่องไวและศัตรูตัวเล็ก

เวทย์สาย MIS (มิซไซล์) : เวทย์ที่ไล่ตามศัตรูได้ ถ้าพัฒนาเป็นขั้นสูงแล้ว ก็จะทำความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

เวทย์สาย ROK (ร็อคเก็ตลันเชอร์) : เวทย์ที่จะพุ่งไปตามจุดที่เราเล็ง เมื่อกระทบเป้าแล้วก็จะระเบิดออกมา

เนื้อเรื่องและตัวละคร

คุณทาบาตะบอกว่าพวกเขาพยายามที่จะพรรณาเนื้อเรื่องแห่งสงคราม ความขัดแย้ง พวกเขาไม่อายที่จะต้องแสดงภาพลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนใน Final Fantasy ภาคปกติ พวกเขาต้องตั้งใจทำฉากเหตุการณ์ต่างๆ เป็นพิเศษเพื่อที่จะสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างถูกต้อง

ดิวซ์ (พากย์โดย คานะ ฮานาซาวะ) :- เป็นสาวผมน้ำตาลที่ใช้ขลุ่ยเป็นอาวุธ เธอเป็นคนรับผิดชอบในหน้าที่ และยังใจดีแม้ว่าจะดื้อรั้นอยู่บ้าง เสียงดนตรีที่เธอเป่าออกมานั้นจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปในการ ต่อสู้ เธอมีอบิลิตี้พิเศษที่เรียกว่า “คอนเซลโต้” (コンチェルト) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มสเตตัสให้กับตัวละครทั้งกลุ่ม

เซเว่น (พากย์โดย มายูโกะ อาโอกิ) :- สตรีผู้ใช้ดาบแส้เป็นอาวุธ แม้เธอจะดูเย็นชา แต่เธอก็เป็นคนใจดี ด้วยบุคลิกแบบนี้เองเธอจึงเป็นที่ป็อปปูล่าร์ของหนุ่มๆ ที่อยู่ต่ำชั้นกว่า เอ้ย หนุ่มๆ ที่มีคลาสต่ำกว่า ดาบแส้ของเธอยังสามารถโจมตีศัตรูทั้งระยะใกล้และไกลได้อย่างรุนแรง อบิลิตี้พิเศษของเธอคือ “แคทซ์” (キャッチ) เป็นการใช้สายฟ้าโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ต่างความสูงกันแค่ไหนก็ได้….

[IMG]

แจ็ค (พากย์โดย เคนอิจิ สึซึมุระ) :- ชายหนุ่มที่มีผมปัดไปด้านหลังและใช้ดาบคาตานะเป็นอาวุธ เขาเป็นคนยิ้มเก่งและชอบพูดคำคมออกมาอยู่เรื่อยๆ เวลาเกิดอันตรายเขาจะเป็นคนให้กำลังใจพวกพ้องอยู่เสมอ สไตล์การต่อสู้ของแจ็คจะเป็นการฟาดฟันด้วยดาบอย่างต่อเนื่อง อบิลิตี้พิเศษของเขาคือ “ยอมแพ้” (見切り) ก็เป็นการยกแขนขึ้นหลอกว่ายอมแพ้แล้ว แต่ก็เขวี้ยงดาบใส่ศัตรูเข้าให้ซะงั้น

อันโดเรีย (พากย์โดย ฮายาชิบาระ เมกุมิ) :- เจ้าหญิงแห่งคอนคอร์เดียซึ่งมีความสัมพันธ์พิเศษกับราชินีมังกร เธอเป็นชนชั้นสูงผู้เพียมด้วยความยุติธรรม ยึดมั่นในระเบียบวินัย

เซเลสเทีย (พากย์โดย นานะ มิซึกิ) :- อัศวินสาวแห่งกลุ่มอาคะโทคิ หนึ่งใน 5 กลุ่มอัศวินที่ตั้งขึ้นมาเพื่อพิทักษ์คอนคอร์เดีย เธอเป็นคนที่ภาคภูมิใจในชาติของตนเป็นอย่างมาก

[IMG]

Cadetmaster – 兵站局局長 (พากย์โดย มาซาโกะ โนซาวะ) :- หัวหน้าฝ่ายพลาธิการ

Commandant – 軍令部長 (พากย์โดย เคนจิ อุซึมิ) :- หัวหน้าฝ่ายบัญชาการ

Provost – 学術局局長 (พากย์โดย ชิเงรุ จิบะ) :- หัวหน้าฝ่ายศึกษาธิการ

Commissar – 院生局局長 (พากย์โดย มาซาโกะ อิเคดะ) :- หัวหน้าฝ่ายบริหารพลังงานเวทมนต์

ประวัติในการพัฒนา

Type-0 ได้เปิดตัวในปี 2006 ทว่าในตอนนั้นทีมงานของเกมนี้ยังมีเพียงแค่คุณทาบาตะ คุณนาโอระ และคุณโนมุระ ส่วนทีมงานคนอื่นๆ ก็ยังทำ Crisis Core กันอยู่เลย ดังนั้นแท้จริงแล้วการพัฒนาของเกมนี้จึงเริ่มต้นขึ้นในปี 2008 แต่ถึงอย่างนั้นทีมงานในตอนนั้นก็ยังต้องพัฒนา The 3rd Birthday เป็นหลัก ส่วน Type-0 ถูกเก็บไว้เป็นงานรอง ในปีนั้นตัวเกมยังมีเพียงแค่เทรลเลอร์กับภาพคอนเซฟต์ ความคืบหน้าของมันจึงอยู่ในขั้นต่ำเป็นเวลานานนับปี คุณนาโอระบอกว่านี่ถือเป็นเกมที่เขาพัฒนามาอย่างยาวนานที่สุด ตอนที่เปิดตัวเกมครั้งแรก พวกเขายังไม่มีอะไรเลย นอกจากภาพเพียงภาพเดียว

ด้านของราคา

คุณทาบาตะยอมรับว่าราคาของมันอาจจะสูงอยู่บ้าง แต่คุณภาพและปริมาณของมันจะสมกับราคาอย่างแน่นอน

(ประโยคนี้ทำให้ ผมนึกถึงเรื่องที่คุณทาบาตะเคยพูดว่า The 3rd Birthday ก็เหมือนกับรถเฟอร์รารี่ การบริหารพลังงานอาจจะไม่ค่อยดี มันอาจจะซดแบตโหด แต่เราก็มั่นใจในคุณภาพของมัน…)

ส่วนร่วมของคุณนาโอระ

คุณนาโอระเป็นคนควบคุมภาพทัศน์ และงานออกแบบของแต่ละชาติในเกม
ส่วนผู้กำกับศิลป์ร่วม (ยูซากุ นาคาอิ) ก็รับผิดชอบด้านตัวละคร และมอนสเตอร์

เรื่องของมนต์อสูร

ศิวะในเกมนี้จะมี ท่าโจมตีที่เรียกว่า “ไอซิเคิลแดนซ์” และ “ชิลลี่เวิร์ล” หากอัญเชิญศิวะออกมาในช่วงหิมะตก พลังน้ำแข็งของเธอก็จะเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด ส่วนท่าไม้ตายของเธออย่าง “ไดมอนด์ดัสต์” จะเป็นการให้ผู้เล่นกดปุ่มหลายๆ ปุ่มอย่างต่อเนื่องเป็นคอมโบ

การเล่นมัลติเพลย์

จะแบ่งเป็นสอง ฝั่งคือฝั่งโฮสต์ กับฝั่งเกสต์ การเล่นเป็นเกสต์ ก็ต้องกดเข้าโหมดพิเศษจากหน้าไตเติล คนเป็นโฮสต์ก็เล่นไปตามปกติ ส่วนคนเป็นเกสต์จะแจมเข้าไปเองในระหว่างการต่อสู้ ซึ่งในจุดนี้คนเป็นโฮสต์สามารถตั้งใน Option ไว้ก่อนได้ว่าจะปิดระบบมัลติเพลเยอร์รึเปล่า

การเล่นเป็นเกสต์ จะมีประโยชน์หลายอย่าง นอกจากค่า EXP ที่ได้แล้ว ยังได้ค่าพิเศษ ที่เอาไว้ใช้ปลดล็อคอะไรบางอย่างในเกม รายละเอียดในส่วนนี้ถูกอุบไว้เปิดเผยในภายหลัง

ราชอาณาจักรคอนคอร์เดีย

ราชอาณาจักรคอน คอร์เดียเป็นหนึ่งใน 4 ชาติมหาอำนาจของโลก โดยในตอนนี้มีการเปิดเผยตัวละครที่เป็นคนของอาณาจักรนี้ 2 คนแล้วคือเจ้าหญิงอันโดเรีย เธอคือสตรีผู้มีความผูกพันกับราชินีมังกร แล้วเจ้าราชินีมังกรเนี่ยแหละก็คือร่างจำแลงของคริสตัลแห่งโซริว ส่วนอีกคนหนึ่งคือเซเลสเทียหรือโฮชิฮิเมะ เธอสังกัดกลุ่มรุ่งอรุณ (暁, อาคะโทคิ) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 กลุ่มอัศวินที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มครองคอนคอร์เดีย

คุณทาบาตะยังบอกอีกว่า ผู้บริหารคอนคอร์เดียทั้งหมดล้วนเป็นผู้หญิง มิสชั่นหนึ่งที่มีให้เล่นในเดโม ก็เกิดขึ้นในคอนคอร์เดีย ถึงตรงนี้คุณนาโอระก็พูดเสริมว่า แม้ว่าชาวคอนคอร์เดียจะไม่ได้เข้มแข็งมากนัก แต่พวกเขาก็มีกองทัพที่ทรงพลัง เนื่องจากพวกเขามีความสามารถในการอัญเชิญควบคุมมังกร และมอนสเตอร์ต่างๆ หากเทียบกับอีก 3 ชาติที่เหลือแล้ว คอนคอร์เดียจะมีความเป็นแฟนตาซีมากกว่า

พอพูดถึงเรื่องมังกร แล้ว คนเล่นอาจจะคิดว่าคงมีคลาสใดสักคลาสของฝ่ายตัวเองที่ฝึกฝนนักรบมังกร ทว่าคุณนาโอระกลับบอกว่าฝ่ายเราไม่มีอะไรแบบนั้น แต่ฝ่ายศัตรูที่เป็นนักรบมังกรน่ะมีอยู่…

ส่วนของพวกตัวเอก
คุณทาบาตะพยายามอธิบาย ว่าบทบาทของตัวเอกในเกมนี้ มันไม่เหมือนเกมทั่วๆ ไป เรื่องราวใน Type-0 ไม่ได้เล่าจากมุมมองของใครคนหนึ่งโดยเจาะจง แต่เป็นการเล่าประวัติศาสตร์จากมุมมองของคลาสซีโร่ ดังนั้นแทนที่จะบอกว่าใครคนหนึ่งเป็นตัวเอก ควรจะบอกว่าคลาสซีโร่เป็นกลุ่มตัวเอกเสียมากกว่า นอกจากนี้คุณทาบาตะยังกล่าวซ้ำอีกว่ามาคิน่ากับเรมนั้นมีความพิเศษ พวกเขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะเป็นคู่พระนางของเกมนี้

ส่วนของฉากแผนที่

เวลาที่ไม่ได้ทำภารกิจใดอยู่ ผู้เล่นจะสามารถท่องไปในเวิร์ลแมพของเกมได้ หากไปเจอมอนสเตอร์เข้าให้ ก็จะตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้ คุณทาบาตะอธิบายว่าตัวเวิร์ลแมพนั้นจะมีลูกเล่นอยู่มากมาย รวมทั้งระบบ RTS แบบที่เคยถ่ายทอดสดผ่านทาง Nico Nico เมื่อ 2 เดือนก่อน

ระบบ RTS ภายในเกมนั้นจะไม่ได้ฮาร์ดคอร์อะไรมาก ถือว่าเป็นมินิเกมอย่างหนึ่งเท่านั้นหากกองทัพของเราสามารถเอาชนะทัพของชาติ ตรงข้ามได้ ก็จะได้ยึดครองเมืองนั้นๆ และเราก็สามารถเข้าไปเล่นในเมืองนั้นได้

คุณทาบาตะยังยอม รับอีกว่าเรื่องหนึ่งที่น่ากังวลก็คือการโหลดข้อมูลเมื่ออยู่เวิร์ลแมพ พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อลดเวลาโหลดให้เหลือน้อยที่สุด ก็มีการเอาการโหลดฉากเวิร์ลแมพในตอนนี้ไปเทียบกับการโหลดฉากเวิร์ลแมพในยุค PlayStation ขอยืนยันว่าคนที่อินสตอลข้อมูลเกมลงเมมฯ แล้วจะไม่ประสบปัญหาการโหลดอย่างแน่นอน

Related Post

Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *