ใครเคยรู้สึก ท้อแท้ หมดหวัง ไร้กำลังใจ ไม่อยากทำอะไรเลยมั้ย มันรู้สึกแย่นะ แต่การหาคนที่ประสบความสำเร็จมาเป็นตัวอย่างในการต่อสู้ต่อไป เป็นเรื่องที่ “คนรวย” เขาทำกันมาแล้วทั้งนั้น มาดูว่า คนที่เขาประสบความสำเร็จ เขาดูบุคคล 13 คนนี้เป็นตัวอย่าง
บางครั้ง เราเห็นคนดังในทีวี ก็คิดสงสัยว่า ทำไมเขาถึงเก่งจัง บางคนมีทั้งเงิน ทั้งอำนาจ ชื่อเสียง อิทธิพล แต่คนดังหลาย ๆ คนที่ก็สู้ชีวิตมาเหมือนกับคนทั่วไปนี่แหละ แถมบางคนถึงขั้นเคยเป็น “คนจรจัด” ไร้ที่อยู่อาศัยเลยนะ ลองอ่านที่ผมเอามาฝากวันนี้ แล้วคุณจะเข้าใจคำว่า “Everything comes with a price” หรือ ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้ได้มาฟรี ๆ แต่ต้องสู้ ต้องหากันมาด้วยหยาดเหงื่อทั้งนั้น มาดูกันเลยว่ามีใครบ้างครับ
1. Steve Jobs
หากได้ยินคำว่า “Steve Jobs” สิ่งแรกๆ ที่คุณนึกถึง รองจาก iPhone และ Apple นั้นก็คงหนีไม่พ้น เงิน เงิน และก็เงิน ที่เขาสามารถทำได้ใช่มั้ยล่ะ
แต่ครั้งหนึ่ง อดีตซีอีโอ Apple ผู้ล่วงลับคนนี้ เขาเคยจนมาก ๆ ถึงขั้นเป็นคนจรจัดมาก่อน! เขาเคยเปิดเผยเรื่องราวชีวิตให้ฟังว่า เขาเคยไม่มีเงินเช่าหอพัก จนเขาต้องขอนอนพื้นในห้องของเพื่อน เขาเคยต้องเก็บขวดโค้กขาย และเขาต้องเดินเป็นระยะเวลา 7 ไมล์ทุกวันอาทิตย์ เพื่อได้กินอาหารดี ๆ สักครั้งที่วัด Hare Krishna
2. Colonel Sanders
ผู้พันแซนเดอร์ ที่พวกเราเรียกติดปาก ก็คือเจ้าของไก่ทอด KFC คนนี้ แน่นอนว่าเขาคือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
แต่ก่อนหน้านี้ ชีวิตเขายากจนมาก เมื่อพ่อเขาตายตอนเขา 5 ขวบ แม่มีสามีใหม่ ทำให้เขาต้องหนีออกจากบ้าน เพราะพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายตลอดเวลา เขาอยู่อย่างจรจัดเป็นเวลานานพอสมควร จนกระทั่งเขาค้นพบสูตรไก่ทอด ที่ทำให้เขารวยสุด ๆ ไปเลย อยากบอกว่า Colonel Sanders ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองจนเขาอายุ 40 เลยทีเดียว
3. Sam Worthington
Sam Worthington เปลี่ยนชีวิตตัวเขาเองจากคนจรจัดเป็นดาราดังเพียงชั่วข้ามคืน
เขาเล่าว่า ก่อนที่เขาจะเสวยสุขอย่างหรูหราที่ฮาวาย ด้วยรายได้มหาศาลที่เขาได้จากภาพยนต์เรื่อง Avatar และอีกหลายๆ เรื่องต่อมานั้น นายคนนี้ต้องนอนในรถมาก่อน ก่อนที่เขาจะได้รับบท Jake Sully ในภาพยนต์เรื่อง Avatar นั่นเอง
4. Charlie Chaplin
ใครจะไปรู้ว่า หนึ่งในดาราที่ดังที่สุดในต้นศตวรรษที่ 20 และราชาของยุคภาพยนตร์ใบ้อย่าง Charlie Chaplin จะมีเรื่องราวที่น่าหดหู่ขนาดนี้
พ่อของเขาตายตั้งแต่เขายังเด็กๆ และแม่ของเขา ซึ่งเขาได้รับยีนส์ “bipolar disorder” หรือโรคสองบุคลิกมานั้น ก็ป่วยบ่อยจนต้องนอนตามสถานพยาบาลอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เขาต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และต้องนอนตามถนนอยู่บ่อยๆ ในช่วงที่เขายังอายุไม่ถึง 10 ขวบเสียด้วยซ้ำ
5. Jim Carrey
หากพูดถึงอันดับต้นๆ ของนักแสดงตลกในยุคปัจจุบัน ถ้าไม่มีชื่อของนาย จิม แครี่ ก็คงจะไม่ได้ แถมรายได้เน็ตๆ ราว 150 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ก็ยิ่งทำให้เขาเป็นที่กล่าวขานมาโดยตลอด
แต่ชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา ไม่ได้ตลกเลยซักนิด หลังจากที่พ่อของเขาตกงาน สถานการณ์ทุกอย่างก็พลิกผัน พวกเขาต้องเสียอพาร์ทเม้นต์ไป ต้องอยู่บนรถตู้ จนกว่าจะเจอที่อยู่ใหม่ และเขาต้องทำงานเป็นภารโรง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวอีกด้วย
6. Sylvester Stallone
ไม่ต้องคิดเลยว่าหนัง Rocky และ Rambo จะทำเงินได้มากถึงขนาดที่ หากเรามีเงินเท่านั้น เราคงไม่ต้องทำงานได้เลยตลอดชีวิต
แต่ใครจะไปรู้ว่าชีวิตก่อนหน้าความร่ำรวยนั้นของ Sylvester Stallone ดาราดังจากเรื่องดังกล่าว จะเคยใช้ชีวิตราวสามอาทิตย์ที่สถานีรถบัส จนกระทั่งเขาเห็นป้ายโฆษณาเล่นหนังโป๊ที่ได้เงินราว 3,200 บาทต่อวัน ก่อนที่เขาจะเข้าวงการเพื่อสร้างชื่อเหมือนในทุกวันนี้
7. John Woo
ผู้กำกับชาวจีนที่มีชื่อเสียงมากจากเรื่อง Face/Off และ Mission: Impossible นั้น ไม่ได้มีชีวิตที่สวยหรูเหมือนในปัจจุบัน
ครอบครัวของเขายากจนมาก อดมื้อกินมื้อ เพราะพ่อของเขาป่วยเป็นวัณโรคและไม่สามารถทำงานได้ และหลังจากนั้น ตอนเขา 7 ขวบ พวกเขาก็ไม่มีที่อยู่ เพราะซ้ำร้าย บ้านถูกไฟใหม้มอดทั้งหลัง นั่นเอง และต้องใช้เวลากว่า 2 ปีเร่ร่อนไปเรื่อยๆ จนพวกเขาหาที่อยู่ใหม่ได้ในภายหลัง
8. Daniel Craig
ดาราหนุ่มจากเรื่องเจมส์ บอนด์ 007 คนนี้ เขาสามารถทำรายได้มากถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเรื่อง Skyfall เพียงเรื่องเดียว ซึ่งมาจากค่าตัว 17 ล้านเหรียญ บวกส่วนแบ่งจากการขายตั๋ว
แต่ใครจะไปรู้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เขาเคยไม่มีบ้านอยู่ จนถึงขั้นต้องนอนบนม้านั่งในสวนสาธารณะมาแล้ว
9. Halle Berry
ดาราสาวผิวสีคนแรกที่ได้รับรางวัลนำหญิงยอดเยี่ยมออสการ์ มีความสามารถ มีชื่อเสียง ร่ำรวย แถมยังฮอตอีกต่างหาก แต่ชีวิตของเธอ ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ
ชีวิตเธอผ่านการหย่ามา 2 ครั้ง ชีวิตรักที่ล้มเหลวมาสองถึง 3 ครั้ง เธอเคยพยายามฆ่าตัวตาย และที่แย่ไปกว่านั้น เธอเคยเร่ร่อน จรจัดไม่มีที่อยู่ อยู่พักนึงเลย ซึ่งเป็นช่วงที่เธอเป็นนักแสดงใหม่ ๆ ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์หนังสือ Reader’s Digest ในภายหลังว่า เรื่องราวเหล่านั้น ทำให้เธอ เข้มแข็งอย่างทุก ๆ วันนี้ มันทำให้เธอรู้ว่า เธอพร้อมสู้กับทุกปัญหา เพราะครั้งหนึ่ง เธอเคยไม่มีที่ซุกหัวนอนมาแล้วนั่นเอง
10. Shania Twain
คือเจ้าของเพลงฮิตคันทรีในยุค 90 ที่ดังมาก และทำเงินให้เธอมากมาย ซึ่งเธอคงใช้ชีวิตราวเจ้าหญิงได้เลยกับเงินที่เธอทำได้มากกว่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แต่ก่อนหน้านั้น เธอต้องต่อสู้กับความยากจนอย่างหนัก รวมไปถึงความรุนแรงในครอบครัว และการไร้ที่พักพิง เธอย้ายที่พักไปเรื่อย ๆใน โตรอนโต บางทีต้องนอนบนรสบัส และเมื่อเธออายุแค่ 22 เธอต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงน้อง หลังจากที่พ่อแม่ของเธอต้องมาจากไปจากอุบัติเหตุรถชนนั่นเอง
11. Carmen Electra
เธอโด่งดังในฐานะมาแทน Pamela Anderson ในบทบาท Lani McKenzie สำหรับเรื่อง Baywatch ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็น Sex Symbol ได้ แต่เธอก็มีชื่อเสียงในไลฟ์สไตล์ที่หรูหราน่าติดตามของเธอ มากกว่าเรื่องของการแสดง
แต่ใครจะรู้ว่า Carmen ต้องอยู่แบบจรจัด ไร้ที่พักพิงใน L.A. เป็นเวลา 2-3 ปี เพราะเธอถูกแฟนหนุ่มของเธอขโมยทรัพย์สินไปจนหมด ก่อนที่เธอจะกลับมาร่ำรวยหลังได้รับบทนั้น นั่นเอง
12. Jennifer Lopez
สาวฮอตจากละตินคนนี้ กับรายได้ราวๆ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุกคนคงคิดว่าชีวิตของเธอของเหมือนอยู่บนสวรรค์บนดินชัดๆ ใช่! สำหรับตอนนี้มันคือสวรรค์
แต่ก่อนหน้านี้ เจ โล ต้องซุกหัวนอนบนโซฟาที่สตูดิโอเต้นของเธอ เพราะแม่ของเธอ Guadalupe Rodriguez ไม่ชอบที่เธอเลือกมาทางเดินนี้ เธอจึงทะเลาะกับแม่ และจบลงที่เธอถูกไล่ออกจากบ้าน โดยแม่ของเธอ อยากให้เธอเข้ามหาวิทยาลัย แต่เธออยากเป็นนักเต้นมืออาชีพ แต่ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าตอนนี้ แม่ของเธอจะว่ายังไง???
13. Hilary Swank
ดาราดัง มากความสามารถจากเรื่อง Million Dollar Baby นั้น เป็นสาวน้อยจาก Nebraska ที่สร้างรายได้ให้ตัวเองมากถึง 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมด้วยรางวัลออสการ์สาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยมถึง 2 รางวัล
แต่ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 90 ใครจะไปรู้ว่าเธอและแม่ต้องนอนในรถ จนกว่าเธอจะได้ทำงานเป็นนักแสดง
จะเห็นว่า เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีเพียงชั่วข้ามคืน พวกเขาเหล่านั้น ต่างเหนื่อยยากลำบากมาก่อนทั้งนั้น แล้วคุณล่ะ เคยลำบากขนาดนี้หรือเปล่า ถ้าไม่เคยแสดงว่าคุณยังมีโอกาสมากกว่าพวกเขาอีกนะ
ที่มา : https://www.afterklass.com/post/4264